ผลงานเด่น

การแข่งขันเรือกอและหน้าพระที่นั่ง สายน้ำบางนรา
          การแข่งขันเรือกอและหน้าพระที่นั่งครั้งแรก พ.ศ. 2518 เรือที่ได้แชมป์ลำแรกในการแข่งขัน ชื่อเรือ สิงห์ภักดี ช่างที่ต่อเรือกอและชื่อ นายเวาะเยะ บูละ หมู่ที่ 2 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และอีกหลายลำที่ได้แชมป์หน้าพระที่นั่ง ส่วนมากช่างที่ต่อเรือกอและเป็นช่างจาก ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี อาทิ เช่น เรือพญาตานี เรือ ต.ช.ด. เรือโคกเคียน ช่างชื่อ แบโซะ เรือนราทัศน์ ช่างชื่อ นายอับดุลเลาะ บูละ หมู่ที่ 2 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
 ในปี 2565 องค์การบริหารส่วนตำบลปะเสยะวอ ได้ต่อเรือลำใหม่ นายช่างชื่อ นายมะยูโซะ บูละ และนายอนัส เปาะซา  และได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันและได้แชมป์ถ้วยพระราชทาน  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 ซึ่งเป็นเกียรติประวัติของชาวปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เพราะเป็นลำเดียวของจังหวัดปัตตานีที่ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน หน้าพระที่นั่ง จ.นราธิวาส

เรือกอและจำลอง 29/9/2006
           การท่องเที่ยวของญี่ปุ่นร่วมกับการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้จัดงาน Amazing Thailand FESTA ที่สวนสาธารณะโอเอโนะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นครบรอบ 60 ปี ในงานนี้ประเทศไทยได้มอบศาลา 60 ปี ให้กับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นการท่องเที่ยวของไทยได้เชิญ นายอับดุลเลาะ บูละ 112/1 หมู่ที่ 2 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ให้ไปสาธิตการทำเรือกอและจำลอง พร้อมวาดลวดลายบนเรือและเป็นตัวแทนของภาคใต้ ภาคกลางเป็นปลาตะเพียนที่ทำกับใบลาน ภาคอีสานเป็นผีตาโขน และภาคเหนือเป็นช่างแกะสลัก นายอับดุลเลาะ บูละ ได้มอบเรือกอและจำลองให้กับ พระจักรพรรดิ อากิฮิโตะ ในวันนั้นด้วย เป็นเกียรติประวัติของคน ต.ปะเสยะวอ และคนไทยทั้งประเทศ โดยที่คนในประเทศไม่มีใครรู้


เรือโปรตุเกส
        นายอิสมาแอ ตือเงาะ บ้านเลขที่ 140/2 หมู่ที่ 3 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป็นหัวหน้าช่างก่อสร้างเรือโดยมีคนงานในการสร้างเรือทั้งหมด 40 คน ซึ่งเป็นคนงานจากตำบลปะเสยะวอ ได้แก่ หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 โดยใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 2 ปี และเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2534 – 2536   ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 20 ล้านริงกิต ผู้รับเหมาในการก่อสร้างเรือ คือ นายอาซิส ซึ่งเป็นคนโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
         นายอาซิส เคยเป็นวิศวกรของรัฐ  และได้ผันตัวออกมารับเหมาเอง ซึ่งได้ข่าวจากวงในว่า            รัฐต้องการสร้างพิพิธภัณฑ์เรือโดยจะมีการประมูลเกิดขึ้น ทำให้นายอาซิสต้องหานายช่างต่อเรือที่มีประสบการณ์และได้ทราบว่านายอิสมาแอ ตือเงาะ มีความสามารถในการทำกง และได้ไปสังเกตทุกๆวัน จึงได้สอบถามนายอิสมาแอ  ตือเงาะ ว่าต้องการสร้างเรือไหม พร้อมมอบแปลนเรือโปรตุเกส และเสนอให้ทำงานร่วมกัน
         หลังจากนั้นได้มีการประมูล ผลปรากฏว่า นายอาซิส ชนะการประมูลเนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐพบว่าข้อมูลที่นายอาซิสนำเสนอนั้น นายช่างมีประสบการณ์ในการต่อเรือ 142 ลำ และมีความสามารถในการทำกง ดังนั้น โปรเจคเรือโปรตุเกส จึงเป็นของนายอาซิส และดำเนินการต่อเรือสำเร็จ ในปี พ.ศ. 2536 ซึ่งได้จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ ณ เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย จนถึงปัจจุบันนี้

บูดู
      บูดูเป็นอาหารพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมในภาคใต้ ได้มาจากการหมักปลากับเกลือเช่นเดียวกับการหมักน้ำปลาโดยอาศัยเอนไซม์และจุลินทรีย์จากปลาที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ ใช้เวลาในการหมัก 8-15 เดือน ที่ต่างจากน้ำปลาคือบูดูเป็นของเหลวขุ่นที่เป็นสารแขวนลอย ต้องเขย่าให้เข้ากันเสียก่อนรับประทาน ส่วนน้ำปลาไม่มีชิ้นส่วนของตะกอน ปริมาณเกลือของน้ำปลา(ร้อยละ 22-37) จะสูงกว่าบูดูซึ่งมีความเค็มอยู่ในช่วงร้อยละ19-25